ปัจจุบันไส้เดือนสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ดิน พลิกกลับขึ้นมามีบทบาทและความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อการค้า ไม่ว่าจะเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ หรือนำมาเป็นอาหารสัตว์ เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้เลี้ยง อีกทั้งยังถือว่าเป็นการช่วยในเรื่องของรักษาสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบของการกำจัดเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์
บทบาทของไส้เดือนดินจะถูกมองว่ามีประโยชน์มากกว่ามีโทษต่อมนุษย์ โดยเฉพาะไส้เดือนดินจะมีส่วนช่วยทำให้โครงสร้างของดินดีขึ้น โดยการชอนไชทำให้ดินร่วนซุย ทำให้การระบายน้ำและอากาศไปสู่ดินได้ดีขึ้น ไส้เดือนดินบางสายพันธุ์สามารถชอนไชลงใต้ดินได้ลึกกว่า 20 เมตร ซึ่งเป็นการไถพรวนทางธรรมชาติ ที่เครื่องกลทางการเกษตรไม่สามารถทำได้ และยังช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์ โดยการช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารแก่ดิน นอกจากนี้ยังพบว่าไส้เดือนดินมีประโยชน์ต่อพืช ในการช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชด้วย และยังสามารถบ่งบอกถึงการปนเปื้อนสารเคมีในดิน ด้วยการดูจากความหนาแน่นของประชากรไส้เดือนที่มีอยู่ ปัจจุบันมีการนำ ไส้เดือนมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการย่อยสลายขยะอินทรีย์เพื่อผลิตปุ๋ยหมักมูลไส้เดือน และใช้เป็นแหล่งโปรตีนเสริมเลี้ยงสัตว์ได้ เนื่องจากเนื้อเยื่อของไส้เดือนดินจะอุดมไปด้วย กรดอะมิโนและสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ หลายชนิดที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสัตว์ ที่สำคัญ คือ สามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วไป เช่น ปู ปลา กบ กุ้ง และสัตว์ปีก อีทั้งเป็นเหยื่อตกปลาที่ดีอีกด้วย
วิธีการเลี้ยงไส้เดือนดินแบบง่ายๆ
1. การเตรียมบ้านไส้เดือนดินในการเลี้ยงไส้เดือนดิน อันดับแรกจะต้องเตรียมบ้านให้ไส้เดือนดินก่อน ซึ่งจะใช้ภาชนะที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ถังพลาสติก กะละมังพลาสติก ลิ้นชักพลาสติก หรือบ่อซีเมนต์ เป็นต้น
การเตรียมบ้านให้ไส้เดือนดินนั้น ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1
ใช้สำหรับรวบรวมน้ำหมักมูลไส้เดือน ไม่ต้องเจาะรูก้นภาชนะ
2. การสร้างบ้านไส้เดือน
นำภาชนะส่วนที่ 1 ไว้ล่างสุดเพื่อเป็นที่รวบรวมน้ำหมักมูลไส้เดือนดิน
จากนั้นนำภาชนะส่วนที่ 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าส่วนที่ 1 มาวางซ้อนเพื่อเป็นที่สำหรับเลี้ยงไส้เดือนดิน
ซึ่งสามารถซ้อนได้ 2-3 ชั้น หรือตามความเหมาะสม
การเจาะรูที่ก้นภาชนะช่วยให้น้ำหมักไหลรวมอยู่ที่ภาชนะส่วนที่ 1
3. การเตรียมที่อยู่ไส้เดือนดิน
-ดินร่วน 4
ส่วน
-มูลวัว 1
ส่วน
นำส่วนผสมเพื่อใช้รองพื้นสำหรับเลี้ยงไส้เดือนมาผสมตามอัตราส่วนข้างต้นให้เข้ากัน
และรดน้ำพอชุ่ม
นำดินที่ผสมแล้วใส่ภาชนะที่จะเลี้ยงสูงประมาณ 3-5
นิ้ว (ตามความเหมาะสมของภาชนะ) ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม ประมาณ 20
วัน เพื่อ ลดความเป็นกรดของดินให้เหมาะสม จากนั้นนำไส้เดือนมาเลี้ยงในอัตราส่วน 50-100
ตัว ต่อ 0.1 ตร.เมตร
ต้องหมั่นตรวจเช็คบริเวณผิวดิน
หากแห้งเกินไปต้องใช้กระบอกฉีดน้ำพรมผิวดินให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
4. การให้อาหารไส้เดือน
อาหารสำหรับเลี้ยงไส้เดือนดิน ได้แก่ มูลฝอยอินทรีย์ต่างๆ เช่น เศษผัก
เศษผลไม้ หรือเศษอาหารต่างๆ เป็นต้น
5. สภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อไส้เดือน
2.
ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบแสงแดด จึงจำเป็นต้องมีภาชนะทึบปิดกันแสง
3.
ไส้เดือนดินต้องการความชื้นอย่างเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต
ไม่ควรให้แฉะเกินไปหรือมีน้ำขังมากเกินไป
4.
ไส้เดือนดินชอบอาศัยอยู่บริเวณที่มีการถ่ายเทของอากาศได้สะดวก
แต่ในบางครั้งสามารถอยู่ในสภาพที่มีออกซิเจนต่ำ คาร์บอนไดออกไซด์สูงได้
5.
ไส้เดือนดินสามารถเจริญได้ดีในดินที่มีสภาพ เป็นกลาง
6. ศัตรูของไส้เดือนดิน
7. วิธีการใช้ประโยชน์
1.มูลไส้เดือนดินที่คัดแยกไส้เดือน ออกแล้ว
นำมาผึ่งลมให้แห้ง และนำไปใช้โรยตามโคนต้นไม้
เพื่อใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดินตามต้องการ
จากนั้นนำน้ำหมักมูลไส้เดือน 1 ส่วน ผสมน้ำ 20
ส่วน ใช้รด พืชผัก ไม้ผล ไม้ดอกเพื่อช่วย
ในการเจริญเติบโต
ที่มีกลิ่นเหม็น
4. ตัวไส้เดือน
สามารถคัดแยกเพื่อขยายพันธุ์หรือนำไปจำหน่ายต่อไปได้
8. สาเหตุของปัญหาและการแก้ไขปัญหาจากการเลี้ยงไส้เดือนดิน
8.1 กลิ่นเหม็น
8.2 ไส้เดือนหายจากที่เลี้ยง
8.3 ที่อยู่แห้ง
8.4 ไส้เดือนมีขนาดเล็ก
ผลผลิตจากการเลี้ยงไส้เดือนดิน
ศูนย์เรียนรู้...และเผยแพร่ ณ ทต.พรรณานคร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
ศูนย์เรียนรู้ฯ หน้าที่ว่าการอำเภอพรรณานิคม จ.สกลนคร
งานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์...สุ่ผู้นำชุมชน
นิทรรศการให้ความรู้
งานส่งเสริมการตลาด...ผลิตผลจากไส้เดือนดิน
ขยายผล...สู่สถานศึกษาในพื้นที่
ส่งเสริม ให้ความรู้...สู่ครัวเรือนในพื้นที่
ต่อยอดโดย...แนวคิดโครงการ"ประมงข้างบ้าน
ศูนย์เรียนรู้...และเผยแพร่ ณ ทต.พรรณานคร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
ศูนย์เรียนรู้ฯ หน้าที่ว่าการอำเภอพรรณานิคม จ.สกลนคร
งานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์...สุ่ผู้นำชุมชน
นิทรรศการให้ความรู้
งานส่งเสริมการตลาด...ผลิตผลจากไส้เดือนดิน
ขยายผล...สู่สถานศึกษาในพื้นที่
ส่งเสริม ให้ความรู้...สู่ครัวเรือนในพื้นที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น